: หน้าแรก

    : แนะนำการใช้บทเรียนออนไลน์

    : คำอธิบายรายวิชา
    : แบบทดสอบก่อนเรียน
    1. ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น
    2. ระบบเทคโนโลยี
        จุดประสงค์การเรียนรู้
         แบบทดสอบก่อนเรียน
        2.1 ระบบเทคโนโลยี
        2.2 การวิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี
           - ระบบการขนส่ง
              - ระบบการติดต่อสื่อสาร
              - ระบบการผลิต
        2.3 การวิเคราะห์ระบบ
        2.4 ผลกระทบจากการพัฒนาเทคโนโลยี
        แบบฝึกหัดท้ายบท
        แบบทดสอบท้ายบทเรียน
    3. นวัตกรรมและการต่อยอด
    4.โครงงานเทคโนโลยีกับการแก้ปัญหา
    5. เทคโนโลยีสมองกลอัจฉริยะ
    : ข้อมูลผู้เรียน
    : ผลการทดสอบก่อน-หลังเรียน
    : แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม
    : ผู้จัดทำ
 
สวัสดีคุณ      รหัสประจำตัว     [ แก้ไขข้อมูล ] [ ออกจากระบบ ]  
         
 
        เทคโนโลยีทำให้มนุษย์มีเครื่องมือ เครื่องจักรกล รู้จักประยุกต์ใช้วัตถุดิบและพลังงานมาสร้างประโยชน์ แก่มวลมนุษย์ ในระบบเทคโนโลยีนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่อง กัน และมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ สำหรับเทคโนโลยีสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

                1. ระบบการขนส่ง ได้แก่ การขนส่งสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือประชาชน
                2. ระบบการติดต่อสื่อสาร คือ เทคโนโลยีที่เอื้อในการสื่อสารระหว่างกัน
                3. ระบบการผลิต เป็นการผลิตปัจจัยสี่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

 
   
 
        การขนส่งในช่วงแรกใช้แรงงานคนในการแบกหามทำให้เกิดความเหนื่อยล้า จึงทำให้มนุษย์เริ่มมองหา วิธีผ่อนแรงในการขนย้ายสิ่งของโดยอาศัยแรงของสัตว์ในการลากแทนการแบกหามด้วยแรงงานคน เช่น ใช้ช้าง ม้า วัว และสัตว์ชนิดอื่นๆ เป็นต้น เพราะสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก มีขนาดใหญ่ขึ้น ปริมาณมากขึ้น ได้รวดเร็วขึ้น

        หลังจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในป? ค.ศ. 1769 (พ.ศ. 2312) ชาวฝรั่งเศสชื่อ นิโคลัส โจเซฟ คาโนต์ (Nicholas Joseph Cugnot) ซึ่งเป็นวิศวกรในกองทัพฝรั่งเศส ได้มีการคิดค้นและประยุกต์ใช้แรงดันไอน้ำมา ขับเคลื่อนเป็นยานพาหนะแบบใหม่โดยไม่ต้องอาศัยแรงของสัตว์ ซึ่งประดิษฐ์ยานยนต์ที่มีลักษณะเป็นรถ 3 ล้อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการลากจูงปืนใหญ่

        ต่อมาในปี ค.ศ. 1886 (พ.ศ. 2429) คาร์ล เบนซ์ (Karl Benz) วิศวกรชาวเยอรมันได้สร้างรถยนต์ที่ใช้ เครื่องยนต์แก๊สโชลีน (Gasoline Engine) คันแรกของโลกได้สำเร็จโดยใช้ชื่อว่า “Benz Patent Motorwagen” ซึ่งเป็นรถ 3 ล้อที่ขับเคลื่อนโดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

        ในปี ค.ศ. 1908 (พ.ศ. 2451) อุตสาหกรรมยานยนต์ได้เริ่มเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) ได้สร้างรถยนต์ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “ทีฟอร์ด” (T Ford) ซึ่งล้อของรถยนต์ทำมาจากยาง โดยการสร้างได้ใช้กระบวนการผลิตแบบที (Model T) และ General Motor ในขณะเดียวกันในยุโรปก็ได้เกิด อุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นเช่นกันซึ่งมีรถยนต์มากมายหลายชนิด เช่น Opel Daimler และ Benz เป็นต้น ในปัจจุบันนี้จะเห็นว่ามียานพาหนะที่ใช้บนถนนมากมาย เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถประจำทาง และ รถจักรยานยนต์ เป็นต้น จึงทำให้การขนส่งทางบกสามารถทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว
 
 
 
   
 
        การขนส่งทางรถไฟเป็นการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบ การขนส่งที่สำคัญ มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ทำให้มนุษย์เรามี ความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถ ขนส่งสินค้าและผู้โดยสารได้ปริมาณที่มากกว่ารถยนต์เนื่องจาก รถไฟสามารถที่จะต่อพ่วงตู้สินค้าและตู้ผู้โดยสารได้หลายตู้และไม่ เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ในอนาคตหากการขนส่งทางรถไฟ สามารถเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งโครงข่ายทางรถไฟระหว่างทวีป ยุโรป เอเชีย และอเมริกาได้จะส่งผลให้การคมนาคมขนส่ง ระหว่างประเทศต่างๆ สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น

        ในปัจจุบันการขนส่งทางรถไฟมีความรวดเร็ว มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เช่น มี ห้องอาหาร ห้องนอน ห้องพักผ่อน เป็นต้น และขับเคลื่อนโดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล และไฟฟ้า สำหรับรถไฟฟ้า ขบวนจะถูกควบคุมการเคลื่อนที่ด้วยคอมพิวเตอร์ ในญี่ปุ่นรถไฟฟ้าถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญในการขนส่งเมื่อเทียบกับเครื่องบิน เนื่องจากมีการพัฒนาให้สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ตัวอย่างเช่น รถไฟที่เชื่อมระหว่างเมือง
โตเกียวไปโอซากา ซึ่งมีระยะทาง 515 กิโลเมตร สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง 202 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดังนั้นรถไฟจึงช่วยให้มนุษย์พัฒนาประเทศและสร้างเทคโนโลยีการขนส่ง ทำให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
 
 
   
 
        การขนส่งทางบกหรือทางรถไฟมีข้อจำกัดในเส้นทางหากมีน้ำหรือทะเลขวางกั้น ดังนั้นมนุษย์จึงได้คิด เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาขึ้นจนเกิดเป็นการขนส่งทางน้ำโดยนำขวานไปตัดต้นไม้ แล้วนำไม้มาทำเป็นแพหรือ เจาะเพื่อสร้างเป็นเรือ ทำให้เทคโนโลยีในการสร้างเรือมีการพัฒนาดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2383 ชาวเรืออังกฤษได้สร้างเรือจากเหล็กกล้าแทนไม้ ทำให้เรือมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น และใช้พลังงานจาก เครื่องจักรกลไอน้ำในการหมุนใบพัด ทำให้เรือแล่นไปข้างหน้า โดยใช้แนวคิดของนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกชื่อ อาร์ดีมิดิสที่ใช้หลักการของสกรูในการขับดัน ต่อมาจึงให้มีการพัฒนาโดยเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์แทนเครื่องจักรกล ไอน้ำ

        การขนส่งทางน้ำทำให้การค้าขายระหว่างประเทศ ระหว่างทวีปเชื่อมโยงติดต่อกันเหมือนไม่มีขอบเขต
และที่สำคัญเป็นการขนส่งที่ต้นทุนต่ำที่สุดและสามารถบรรทุกสินค้าได้จำนวนมาก
 
 
 
   
          การขนส่งทางอากาศเป็นการลำเลียงคน สัตว์ สิ่งของจากสถานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยใช้พาหนะที่เคลื่อนที่ในอากาศ เช่น บอลลูน เครื่องบิน ยานอวกาศ เป็นต้น

        วิวัฒนาการของการขนส่งทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2325 โดย Montgolfier สองพี่น้องชาว ฝรั่งเศส ได้สร้างบอลลูนที่สามารถลอยได้ในอากาศ แต่ยังไม่สามารถบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ของบอลลูนได้ ทำให้การเคลื่อนที่ต้องขึ้นอยู่กับแรงลม

        ต่อมามีการสร้างเครื่องร่อนแต่ก็ยังไม่สามารถบินได้ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2346 สองพี่น้องชาวอเมริกัน
Orville และ Wilbur Wright ได้ออกแบบและสร้างเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์แก?สโซลีนขนาดเล็กทำให้บินได้เป็น ครั้งแรก จากนั้นเครื่องบินได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นตามลำดับ จนในปัจจุบันนี้สามารถสร้าง เครื่องบินที่บินได้เร็วกว่าเสียงและมีขนาดใหญ่มากขึ้น
 
 
 
 
        ในปัจจุบันนี้การขนส่งทางอากาศมีความสะดวกสบายมากขึ้น ช่วยลดเวลาในการเดินทาง ตัวอย่างเช่น การเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารปรับอากาศจากจังหวัดลำปางมากรุงเทพมหานครใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ถ้าเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที ดังนั้น การขนส่งทางอากาศจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทาง นอกจากจะใช้เครื่องบินในการโดยสาร แล้ว ยังสามารถนำการขนส่งโดยเครื่องบินมาทำการส่งออกสินค้าระหว่างประเทศได้ด้วย เพื่อให้สินค้าจำพวก ของสด เช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ เป็นต้น ยังคงความสดไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการขนส่งไม่มากนัก

        จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีด้านการขนส่งไม่เคยหยุดนิ่งได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในปัจจุบันมีความ ล้ำสมัยทั้งคน เครื่องจักรกล ระบบกลไก ระบบบริการ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาด้านอื่นให้สอดรับตามกันไปด้วย ทำให้วิถีชีวิตของมนุษย์ถูกปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงด้วย
 
     
สาระน่ารู้ รถไฟพลังแม่เหล็กญี่ปุ่น ทุบสถิติวิ่งเร็วที่สุดในโลก

        รถไฟพลังแม่เหล็กของประเทศญี่ปุ่น ทำลายสถิติวิ่งเร็วที่สุดในโลกแล้ว โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 603 กม./ชม. ในการวิ่งทดสอบใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ

        รถไฟพลังแม่เหล็กดังกล่าว เป็นของบริษัท 'เซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์' (Central Japan Railway) หรือ เจอาร์เซ็นทรัล โดยรถไฟขบวนนี้สามารถทำลายสถิติความเร็ว 590 /ชม. ที่ทำเอาไว้ในการทดสอบได้สำเร็จ



ที่มา :https://www.thairath.co.th/content/494371
 
       
ดัชนี [  2.1 ระบบเทคโนโลยี ] [ 2.2 ตัวอย่างระบบเทคโนโลยี ] [ 2.3 การดำเนินงานของระบบเทคโนโลยี ] 2.4 ผลกระทบของระบบเทคโนโลยี ]
 
 

จัดทำโดย ครูวีรศักดิ์ จันทร์สุข
โรงเรียนคุรุประชาสรรค์ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
E-mail : weerasak_ch26@hotmail.com หรือ krurock.kuru@gmail.com